สารบัญ
ขนาดของเครื่องเติมอากาศบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมสำหรับระบบบำบัดน้ำเสียนั้นมีความสำคัญมากครับ เพราะจะช่วยให้ระบบบำบัดน้ำเสียทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดพลังงานอีกด้วยครับ หากเครื่องเติมอากาศ ขนาดเล็กเกินไป จะไม่สามารถบำบัดน้ำเสียได้ตามค่ามาตรฐาน หรือ กฎหมาย ครับ แต่หาก เครื่องเติมอากาศใหญ่มากเกินไป จะทำให้เปลืองพลังงานโดยใช่เหตุครับผม
หากคุณลูกค้าต้องการทราบว่าเครื่องเติมอากาศในระบบบำบัดน้ำเสีย นั้นราคาเท่าไหร่ ? คุณลูกค้าต้องทราบข้อมูลอย่างน้อย 3 ข้อมูลนี้ครับ
การเลือกเครื่องเติมอากาศ แนะนำว่าคุณลูกค้าควรปรึกษา วิศวกรสิ่งแวดล้อมเพื่อออกแบบระบบให้ครับ หากคุณลูกค้าทราบรุ่น อยู่แล้วก็สามารถเลือก เครื่องเติมอากาศ บำบัดน้ำเสีย ได้เลยครับ
ราคาของเครื่องเติมอากาศสำหรับบำบัดน้ำเสียจะแตกต่างกันไปตาม ชนิด ขนาดและประสิทธิภาพของเครื่องเติมอากาศครับ หรือ หากต้องการให้เราเลือกเครื่องเติมอากาศ บำบัดน้ำเสีย ให้ โทรมาได้เลยครับ
ประหยัดสุด !! – เครื่องเติมอากาศ Roots type Rotary Air Blower ระบบทำให้แรงลมคงที่ ปราศจากละอองน้ำมัน รู ท โบ ล เวอร์ ราคา ดี โครงสร้างเรียบง่าย บำรุงรักษาง่าย เป็นที่นิยมสำหรับงาน น้ำเสียมากครับ ใช้เพื่อลดค่าความสกปรกแบบหนัก ครับ เช่น น้ำเสีย จากโรงงานอุตสากรรม โรงพยาบาลใหญ่ๆ อาคารสูง เป็นต้นครับ
รุ่น | อัตราการเป่าลม ( m3/min ) | ที่ความดันอากาศ (เมตร น้ำ) | 0.5 HP | 1 HP | 2HP | 3HP | 5 HP | 7.5 HP | 10 HP |
EVG -RB40 | 0.3 – 0.6 | 1-6 | 34,000 | 36,000 | 40,000 | ||||
EVG -RB50 | 0.6-0.9 | 1-6 | 45,000 | 48,000 | 51,000 | 53,000 | |||
EVG-RB65 | 0.9-2.0 | 1-6 | 51,000 | 53,000 | 56,000 | 59,000 | 61,000 | 65,000 | |
EVG-RB80 | 2.0-3.2 | 1-6 | 68,500 | 70,000 | 72,000 | 75,000 | 77,000 | ||
EVG-RB100 | 3.2-5.8 | 1-6 | 78,000 | 80,000 | 82,500 | 84,500 | |||
EVG-RB125 | 5.8-10 | 1-6 | 120,000 | 125,000 | 128,000 | ||||
EVG-RB150 | 13-17 | 1-6 | 130,000 | 135,000 | 137,000 |
คุ้มค่าที่สุด ! ประหยัดไฟฟ้ามาก แต่มาพร้อมกับค่าตัวที่แรง แต่ระยะยาวคุ้มมากกกกก ครับ ปกติคืนทุน ส่วนต่าง ถ้าเทียบกับ root blower ไม่เกิน 2 ปี คืนทุนครับ ใช้เพื่อลดค่าความสกปรกแบบมืออาชีพครับ เช่น น้ำเสียจากอุตสาหกรรม น้ำเสียชุมชน
รุ่น | Power ( HP / kW) | Pressure ( เมตรน้ำ ) | น้ำหนัก ( kg ) | ราคา |
EVG-TB10 | 10 / 7.5 | 4-8 | 390 | 235,000 |
EVG-TB20 | 20 / 15 | 4-8 | 415 | 285,000 |
EVG-TB30 | 30 / 22 | 4-8 | 510 | 325,000 |
EVG-TB50 | 50 / 37 | 4-10 | 540 | 450,000 |
EVG-TB75 | 75 / 55 | 4-12 | 600 | 550,000 |
EVG-TB100 | 100 / 75 | 4-12 | 870 | 675,000 |
EVG-TB125 | 125 / 90 | 4-12 | 870 | 775,000 |
EVG-TB150 | 150 /110 | 4-12 | 900 | 825,000 |
EVG-TB200 | 200/155 | 4-12 | 950 | 900,000 |
EVG-TB250 | 250/185 | 4-12 | 1400 | 1,425,000 |
EVG-TB300 | 300/225 | 4-12 | 1480 | 1,650,000 |
EVG-TB350 | 350/250 | 4-12 | 1500 | 1,750,000 |
EVG-TB400 | 400/300 | 4-12 | 2200 | 1,850,000 |
เป็น ปั๊ม เติม อากาศ บ่อ บํา บัด น้ํา เสีย ราคา ดี ประสิทธิภาพสูง เพราะเป็นการเป่าลมใต้ น้ำทำให้สามารถเพิ่มระยะเวลาของฟองอากาศสำผัสน้ำได้ง่าย ติดตั้งง่าย สะดวกในการเติมอากาศในระบบบำบัดน้ำเสียครับ ใช้เพื่อลดค่าความสกปรกกลางๆ ครับ เช่น น้ำเสีย จากห้องน้ำ อาคาร หอพักขนาดกลาง โรงเรียน เป็นต้นครับ
รุ่น | อัตราการเป่าลม ( m3/min ) | Motor output (kW) | ที่ความดันอากาศ ลึกน้ำสูงสุด ( mAq) | ราคา | ราคารวม Guide rail |
EVG-ET 0.75 – | 11-18 | 0.75 | 3 | 26,000 | 30,000 |
EVG-ET 1.5 | 30-42 | 1.5 | 3.5 | 29,000 | 33,000 |
EVG-ET 2.2 | 35-75 | 2.2 | 4 | 46,000 | 50,000 |
EVG-ET 3.0 | 60-120 | 3.0 | 5 | 51,000 | 55,000 |
EVG-ET 4.0 | 86-170 | 5.5 | 6 | 62,000 | 66,000 |
น้องเล็กแห่งวงการเติมอากาศ น้ำเสีย ใช้เพื่อลดค่าความสกปรกไม่มากครับ เช่น น้ำเสีย จากห้องน้ำ สำนักงาน หอพัก เป็นต้นครับ หากต้องการทราบรายละเอียด เรื่อง เครื่องเติมอากาศแบบ Linear Air pump อย่างละเอียด กรุณากด Link นี้ได้เลยครับ
รุ่น | อัตราการเป่าลม ลิตร ต่อ นาที | ที่ความดันอากาศ ( บาร์ ) | กำลังไฟฟ้า ( วัตต์ ) | ราคา ( บาท ) |
EVG-AP-60 | 60 | 0.2 | 60 | 5,000 |
EVG-AP-80 | 80 | 0.2 | 80 | 6,500 |
EVG-AP-100 | 100 | 0.2 | 100 | 7,500 |
EVG-AP-120 | 120 | 0.2 | 125 | 10,000 |
EVG-AP-150 | 150 | 0.2 | 150 | 11,500 |
EVG-AP-200 | 200 | 0.2 | 200 | 12,000 |
เครื่องเติมอากาศถือเป็นอุปกรณ์สำคัญอันดับต้นในการบำบัดน้ำเสียเลยครับ โดยมีหน้าที่ในการเพิ่มออกซิเจน (O2 )ในน้ำเสีย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการย่อยสลายสารอินทรีย์ (BOD, COD,Sulfide, N ) ต่างๆ ในน้ำเสีย โดยช่วยให้จุลินทรีย์ที่ใช้ในการบำบัดน้ำเสียเติบโตแข็งแรง สามารถทำงาน ( กินอาหาร ) ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
ซึ่งจะส่งผลให้น้ำเสียได้รับการบำบัดจนมีคุณภาพดีขึ้น จนผ่านมาตรฐาน ผ่านกฎหมาย จนสามารถปล่อยน้ำเสีนยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติได้อย่างถูกต้องครับ
ผมลองยกตัวอย่างการคำนวณหาปริมาณออกซิเจนของจุลินทรีย์ที่ต้องการใช้ในการย่อย( กิน ) ลดค่า BOD อย่างเดียวจาก การบำบัดน้ำเสียชนิด Activiated Sludge ดูนะครับ
ผมชอบคิดว่าคือระบบ ” อากาศดีชื่นใจ จุลินทรีย์อ้วนน้ำใส ” เพราะหากอ้วนจะตกตะกอนได้ดี น้ำก็ใสแจ๋วครับ
ขอแบ่งการเติมอากาศในระบบบำบัดน้ำเสียเป็น 3 เรื่องครับ
เราต้องการเติมอากาศเพื่อการกวนผสม หรือ เขย่าน้ำเสียในการบำบัดช่วงการบำบัดขั้นต้น ( Primary treatment ) เพื่อให้เป็นเนื้อเดียวกัน และ ไม่เกิดการหมัก และ ช่วยในการกวนผสม ในการบำบัดขั้นสอง ( Secondary treatment ) ให้แบคทีเรีย และ อาหาร แขวนลอยเพื่อเกิดการบำบัดสมบูรณ์ครับ
การออกแบบการกวนให้สมบูรณ์ใน ถังปรับสเถียร ต้องใช้ทั้ง เครื่องกวนผสม และ การเติมอากาศที่เหมาะสมครับ การเลือกอุปกรณ์ต้องนึงถึง ขนาด และ แรงของการกวนให้สามารถป้องกันการทับถมกันของตะกอนหนัก ( ของแข็งที่จมตัวลง ) 0.004-0.008 kW/ลบ.ม. และ เติมอากาศเพื่อป้องกันกลิ่นและเกิดการหมัก ประมาณ 0.01-0.015 ลบ.ม./ ลบ.ม.- นาที ( ในน้ำเสีย SS ~ 200 มก./ล ) ของปริมาตรการกักเก็บ
เช่นหากมีปริมาตรถังปรับสเถียร 100 ลบ.ม
มอเตอร์กวนผสมควรออกแบบ
คือ 100 x 0.006 = 0.6 kW
เครื่องเติมอากาศที่ควรออกแบบ
คือ 100 x 0.01 = 1 ลบ.ม/นาที หรือ 1000 ลิตรต่อนาที
หรือย่อยสลายสารอินทรีย์ทางชีวภาพ หรือ การบำบัดขั้นที่สอง ( Secondary treatment ) เช่น การลดค่า BOD หรือ bCOD ในน้ำเสียลงจากหน่วยการบำบัดนี้ครับ
จากสมการ
ในกรณีนี้เราไม่ได้ต้องการเติมอากาศในลงในน้ำเสียหรอกครับ แต่เราต้องการ ออกซิเจน ( O₂ ) เพื่อเปลี่ยนเป็น (DO : Dissolved Oxygen) ออกซิเจนละลายน้ำ เพื่อใช้ในการเติบโตของ” แบคทีเรียที่ใช้อากาศในการหายใจ ” ในน้ำเสีย
เพราะหาก แบคทีเรียเหล่านี้โต และ แข็งแรงพวกเค้าเหล่านี้จะเป็นกำลังหลัก ในการลด สารอินทรีย์ในน้ำเสียได้ครับ
โดยทั่วไป ในอากาศ ( Air ) จะมี ออกซิเจน O₂ อยู่ 21% ครับ และ อีก 79% คือ Nitrogen ไนโตรเจนครับ ดังนั้นการเติมอากาศ เข้าไป 1 หน่วย จริงๆ ได้ O₂ เพียง 1 ใน 5 ของจำนวนอากาศ ครับ
เราลองมาดู หลักการการบำบัดน้ำเสียชีวภาพ แบบ ง่ายๆ ว่าเครื่องเติมอากาศอยู่ท่ีไหนกันครับ โดยแสดงตัวอย่างจาก Activated Sludge Process ( ASP ) อันโด่งดัง กันครับ
การหาออกซิเจนเพื่อย่อยสลายสารอินทรีย์ทางชีวภาพคือ
R₀ : ความต้องการออกซิเจนเพื่อย่อยสลายสารอินทรีย์ทางชีวภาพ g/d.
Q : อัตราการไหลน้ำเสียเข้า m³/d.
S₀ : ความเข้มข้นของสารอาหารเข้า( ค่า bCOD ) g/m³
S : ความเข้มข้นของสารอาหารออก g/m³
Pₓ : ปริมาณตะกอนส่วนเกินในแต่ละวัน ( ไม่ต้องการออกซิเจนแล้ว ) g VSS/d.
YH : ส่วนน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากการกินอาหารของ Heterotrophioc bacteria , ( 0.45 VSS/g bCOD )
fd : น้ำหนักส่วนที่เหลือของเซลล์ที่ตายแล้ว g/g ( ปกติประมาณ 0.15 )
b(H,T) :อัตราการสลายน้ำหนักตัวของ Heterotrophic bacteria ต่ออุณหภูมิใดๆ ( 0.04 g/g.d หรือ d-1 )
ในกระบวนการนี้เค้าเรียกกันว่า ปฏิกิริยาไนตริฟิเคชั่น โดยการเปลี่ยน แอมโมเนีย และ ไนไตรท์ ให้เป็น ไนเตรท ครับ เมื่อมีแอมโมเนีย หรือ ไนไตรท์ ในน้ำเสียซึ่งค่าที่เรามักจะเห็นจากกฎหมายก็คือค่า TKN เกินครับ ดังนั้นหาก มีผลน้ำที่มีค่า TKN เกินกฎหมายมากๆ ต้องใช้อากาศ ( เติมออกซิเจน ) เพื่อลดค่า TKN ครับ
การลด TKN นั้น ยากกว่าการลด BOD หรือ bCOD มากครับ เพราะ ต้องใช้ O2 มากกว่าถึง 4.57 เท่า
R₀ : ความต้องการออกซิเจนเพื่อย่อยสลายสารอินทรีย์ทางชีวภาพ g/d.
Q : อัตราการไหลน้ำเสียเข้า m³/d.
S₀ : ความเข้มข้นของสารอาหารเข้า( ค่า bCOD ) g/m³
S : ความเข้มข้นของสารอาหารออก g/m³
Pₓ : ปริมาณตะกอนส่วนเกินในแต่ละวัน ( ไม่ต้องการออกซิเจนแล้ว ) g VSS/d.
NOₓ : ปริมาณการผลิต ( เกิด ) NO₃-N ที่ถูกเปลี่ยนจาก NH₄-N g/m³
TKN₀ : ค่าความเข้มข้น TKN เข้า mg/L
Nₑ : ค่าความเข้มข้น NH₄-N ออก mg/L
เราต้องเปลี่ยนสถานะจาก อากาศ และ ออกซิเจนในสถานะก๊าซ ให้เป็นสถานะละลายน้ำ ( Dissolved Liquid form ) เพื่อทำให้ออกซิเจนละลายน้ำได้ ส่วนมากจะเกิดในหน่วยการบำบัดที่เรียกว่า ถังเติมอากาศ ( Aeration tank ) ครับ ที่ประกอบด้วย ถังหรือบ่อเติมอากาศ เครื่องเติมอากาศ ( Aerator ) และอาจจะมีตัวช่วยทำให้ก๊าซซึมผ่านและละลายในน้ำได้ดียิ่งขึ้นด้วย อุปกรณ์ช่วยเติมอากาศที่มีนรูพรุน อย่าง หัวกระจายอากาศ ( Diffused aeration )
อย่างที่พูดไปเบื้องต้นครับว่า เราต้องการออกซิเจนละลายน้ำให้มากเพียงพอ เพื่อให้แบคที่เรียที่ใช้อากาศอยู่รอด และ มากพอที่จะเติบโต ในการบำบัดทางชีวภาพชนิดต่างๆ ครับ เช่น activated sludge, biological filtration , aerobic digestion ซึ่งในแต่ละชนิดต้องการจำนวนและปริมาณออกซิเจนละลายน้ำ และอากาศ ต่างกัน
DO คือ Dissolved Oxygen ออกซิเจนละลายน้ำ
อากาศหรือ ออกซิเจนละลายน้ำ ( DO ) จะเพียงพอหรือไม่ อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญคือ อัตราการซึมผ่านของออกซิเจน ( Oxygen transfer rate : OTR ) ครับ เพราะการละลายออกซิเจนในน้ำนั้นจะมีค่าต่ำมากๆ ทำให้เติม อากาศ หรือออกซิเจน ลงในน้ำเสียก็ยังไม่สามารถละลายน้ำทั้งหมดครับ
เนื่องจากแบคทีเรียใช้ ออกซิเจนที่” ละลายน้ำ” ในการหายใจ เน้นครับ หากน้ำมีออกซิเจนแต่ไม่ละลายน้ำ แบคทีเรียก็หายใจไม่ได้อยู่ดีครับ
ฉันก็อยากเติมใจทั้งใจ แต่เติมยังไงไม่เต็มหัวใจเธอ เอ้ย เติมอากาศไม่ค่อยพอครับ วิศวกรสิ่งแวดล้อมเลยต้องคำนวนปริมาณออกซิเจนที่ต้องการในระบบบำบัดน้ำเสีย และเลือกเครื่องเติมอากาศให้เพียงพอ และ ไม่มากจนเปลืองพลังงานเกินไปครับ
การออกแบบระบบเติมอากาศ เริ่มจากการเลือกอุปกรณ์และ การควบคุมการเพิ่ม ออกซิเจนละลายน้ำ เพื่อให้เพียงพอต่อระบบการบำบัดทางชีวภาพ โดย ขั้นตอนที่ 1 คือวิศวกรสิ่งแวดล้อม ต้องหาเลยคือ ความต้องการอากาศในระบบบำบัดน้ำเสีย ( R₀ : Oxygen Requirement ) ครับ
ซึ่งทางวิศวกรสิ่งแวดล้อมจะคำนวนตามทฤษฎี เพื่อให้ทราบถึงความต้องการอากาศที่แท้จริงในหน้างาน Actual Oxygen Requirement ( R₀ หรือ AOR ) ครับ โดยหน่วยของความต้องการอากาศ คือ kgO₂/วันครับ โดย การคำนวนเพื่อหา R₀ หรือ AOR ต้องทราบข้อมูลค่าการออกแบบตามนี้ครับ
ในการเลือกเครื่องเติมอากาศ ผู้ผลิตเครื่องเติมอากาศเลยใช้ระเบียบปฏิบัติในการทดสอบเครื่องเติมอากาศของตัวเองตามค่ามาตรฐาน ภายใต้สภาวะเหมือนๆกัน เพื่อให้ลูกค้าอย่างเราสามารถเปรียบเทียบประสิทธิภาพเครื่องเติมอากาศ ได้ง่ายขึ้นครับ
โดยทดสอบที่
ค่าอุณหภูมิมาตรฐานที่ 20 องศาเซลเซียส
ค่าความดันมาตรฐานที่ 1 atm หรือ 101.325 kPa
ปริมาณการเติมออกซิเจนที่คำนวนได้นั้น จะเป็นค่าที่ได้จากการเติมอากาศ
SOTR : อัตราการถ่ายเทออกซิเจนมาตรฐานที่หน้างาน , kg O₂/h
OTRf : อัตราการถ่ายเทออกซิเจนจริงที่หน้างาน , kg O₂/h
α = ค่าสัมประสิทธิอัตราการถ่ายเทในน้ำสะอาด β ค่าสัมประสิทธิ ของออกซิเจนละลาย DO ที่อิ่มตัวในน้ำสะอาด ( 0.95-0.98 ) F ค่าแก้ไข ของการเกิดตะกรันของหัวกระจายอากาศ C*st ค่าการอิ่มตัว DO ณ ระดับน้ำทะเล และ อุณหภูมิของการทำงาน mg/L C*s20 ค่าการอิ่มตัว DO ณ ระดับน้ำทะเล และ อุณหภูมิ 20 °C , mg/L C*∞, st ค่าการอิ่มตัว DO ณ ระดับน้ำทะเล และ อุณหภูมิ 20 °C สำหรับหัวกระจายอากาศ, mg/L |
Pa มาตรฐานความดันอากาศที่ระดับน้ำทะเล ( 760 mm , 10.33 m )
Pb ค่าความดันอากาศที่หน้างาน ตามความสูงของจริง ,m
Df ความลึกของหัวกระจายอากาศในถังเติมอากาศ , m
C ค่า DO ที่ต้องการควบคุมในถังเติมอากาศ mg/L
T อุณหภูมิของน้ำในถังเติมอากาศ °C
de ค่าแก้ไขสำหรับกลางถังเติมอากาศ 0.25-0.45(0.40)
เมื่อเราแก้ไขค่าต่างๆ แล้วจะได้ SOTR ออกมาเป็นค่า ความต้องการอากาศครับอย่างไรก็ตามเราจำเป็นต้องปรับค่าความดัน และ ความหนาแน่นของน้ำอีกที
E คือ ค่าประสิทธิภาพการถ่ายเทออกซิเจนในน้ำ
เราก็จะสามารถหาอัตราการไหลของอากาศ ( m3/min ) ที่เราต้องการในระบบบำบัดน้ำเสียได้แล้วครับ
พอได้ค่า Air Flowrate มาแล้ว ก็สามารถเลือกเครื่องเติมอากาศ ได้แล้วครับ อย่างเช่น
ตัวอย่าง 9 m3/min ที่ 4 เมตรน้ำ ( mmAQ ) เราสามารถเลือก Root blower
ประสิทธิภาพเครื่องจักร 75% ควรเลือกที่ 9/0.75 = 12 m3/min
ประสิทธิภาพเครื่องจักร 75% ควรเลือกที่ 9/0.75 = 12 m3/min
จากตารางให้เลือก Roots Blower รุ่น EVG-RB125 มอเตอร์อยู่ที่ 20 HP (15 kW ), 1050 rpm ครับ
เราลองมาเลือก Turbo Airblower กันบ้างครับ
ต้องการเปลี่ยนหน่วยจาก 4 mmAQ x 9.8 , 39.2 kPa. Airflow : 12 m3/min
เลือกรุ่น EVG-TB-40 , 15 HP ( 11kW )
เราลองมาเลือก Air Ejector กันบ้างครับ
12 m3/min x 60 = 720 m3/h ลึก 4 เมตร
จะเห็นได้ว่าเราต้องใช้ EVG-ET-15 ถึง 4 เครื่องถึงจะได้อากาศเพียงพอครับ ( 200×4 =800 m3/h )
แต่เราสามารถติดตั้งในบ่อเติมอากาศได้เลยครับ ไม่ต้องติดตั้งท่อ และ หัวกระจายอากาศ และ ไม่ต้องมีห้องเก็บเหมือน Roots blower หรือ Turbo Air blower ครับ ต้องลองเปรียบเทียบราคากันครับ
ในการเลือกซื้อเครื่องเติมอากาศ จำเป็นต้องคำนวณหาขนาดที่เหมาะสม กับปริมาณน้ำเสียที่ต้องการบำบัดครับ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณน้ำเสีย, ปริมาณสารอินทรีย์ในน้ำ ( BOD, N ) , อุณหภูมิของน้ำ เป็นต้นครับ
เพื่อให้ได้เครื่องเติมอากาศที่มีขนาดและประสิทธิภาพเหมาะสมกับการใช้งานครับ ( หากคำนวณแล้วเครื่องเติมอากาศใหญ่เกินไป เปลืองไฟครับ หากคำนวณแล้วน้อยไปก็ไม่สามารถบำบัดน้ำได้ครับ )
ซึ่งจะช่วยให้ระบบบำบัดน้ำเสียทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดพลังงานในการใช้งาน
เมื่อทราบขนาดเครื่องเติมอากาศที่เหมาะสมแล้ว ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ในการเลือกซื้อเช่นเดียวกันครับ เช่น
การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เลือกซื้อเครื่องเติมอากาศที่มีคุณภาพ ตอบสนองความต้องการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความคุ้มค่าในเลือกซื้อครับ
เครื่องเติมอากาศถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในการบำบัดน้ำเสีย โดยช่วยเพิ่มออกซิเจน O2 ละลายในน้ำ เพื่อให้จุลินทรีย์ที่ใช้ในการบำบัดสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ราคาของเครื่องเติมอากาศจะแตกต่างกันไปตามขนาดและประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงควรคำนวณหาขนาดที่เหมาะสม และพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ในการเลือกซื้อ เพื่อให้ได้เครื่องเติมอากาศที่มีคุณภาพและตอบสนองความต้องการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ
1. ขนาดเครื่องเติมอากาศขึ้นอยู่กับอะไร? ขนาดของเครื่องเติมอากาศขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำเสีย, ปริมาณสารอินทรีย์ในน้ำ, และอุณหภูมิของน้ำ เป็นต้น ซึ่งต้องคำนวณหาขนาดที่เหมาะสม
2. เครื่องเติมอากาศมีราคาเท่าไหร่? ราคาของเครื่องเติมอากาศสำหรับบำบัดน้ำเสียจะอยู่ในช่วง 5,000 – 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและประสิทธิภาพของเครื่อง 3. ปัจจัยอะไรบ้างที่ควรพิจารณาในการเลือกเครื่องเติมอากาศ? ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ประสิทธิภาพการเติมอากาศ, คุณภาพและความทนทานของวัสดุ, ความสะดวกในการติดตั้งและบำรุงรักษา, ความประหยัดพลังงาน และการรับประกันและการให้บริการหลังการขาย