ถังตกตะกอน คือ ถัง หรือ บ่อ ที่ทำให้ของแข็งแขวนลอยที่สามารถตกลงมาได้เองโดยจะใช้แรงโน้มถ่วงของโลกครับ โดยปกติสิ่งที่แขวนลอยอยู่ในน้ำนั้นจะตกตะกอนได้เอง หากมีขนาดและน้ำหนักเกินแรงต้านครับ
ในระบบบำบัดน้ำเราเรียกของแข็งที่จมตัวลงสู่ก้นของถังตกตะกอนทับถมกันเป็นชั้นหนาที่ก้นถังว่า ” ตะกอน ” แต่หากใช้เครื่องมือในการช่วยทำให้ตกตะกอนช่วยให้ตกตะกอนดีขึ้น เราจะเรียกถังนี้ว่าเป็น ถังทำข้น ( Thickener )
การเลือกถังตกตะกอนอย่างง่ายๆ ต้องทราบอยู่ 2 เรื่องครับ
เราจำเป็นต้องทราบถึง อัตราการไหลของน้ำในการเข้า clarifier ต่อ เวลาครับ เช่น 5,000 ลิตร ต่อ ชม เพื่อนำมาหา ขนาดถัง และ พื้นที่หน้าตัดของถัง ครับ
โดยปกติ ขนาดถัง ที่เหมาะสมกับการตกตะกอน เท่ากับ 1.5 – 4 ชั่วโมง x อัตราการไหล ครับ หากเราใช้
เราสามารถรู้ พื้นที่หน้าตัดของถังตกตะกอนได้ จาก ” ความเร็วไหลขึ้นของน้ำในถังตกตะกอน ” โดยความเร็วนี้ มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า SOR , Surface Overflow rate
อัตราการไหล ( ลบ.มต่อวัน ) / SOR = พื้นที่ถังตกตะกอนที่ต้องการ
ตำแหน่งวางถังตกตะกอน | ความเร็วไหลขึ้น SOR ( m3/m2-d) |
สำหรับการตกตะกอนขั้นต้น ( ประปาหมู่บ้าน หรือ การบำบัดทางเคมี ) ( Primary Treatment ) | 24 – 32 |
สำหรับการตกตะกอนชีวภาพ ( Secondary treatment ) | 16 – 28 |
ที่มา หนังสือการออกแบบระบบบำบัดน้ำเสีย Wastewater engineering Metcalf & Eddy 5th Edition.
ทำไมต้องรู้เรื่อวของแข็งในน้ำด้วย เพราะมีความจำเป็นในการตกตะกอนครับ ของแข็งๆในน้ำมีหลายอย่างเลยครับ อาจแบ่งของแข็งในน้ำให้ง่ายๆเป็นแค่ 3 แบบครับ
ในการเลือกถังตกตะกอนข้างต้น เราคิดเฉพาะของแข็งแขวนลอยที่มีน้ำหนัก และ ขนาดใหญ่ พอที่จะตกตะกอนได้ ภายใน 1-3 ชมครับ สามารถทดลองได้ง่ายๆ โดยการเทน้ำใส่ขวด 1 ลิตร และตั้งน้ำทิ้งไว้ สัก 1,2,4 ชม ลองสังเกตว่าตะกอนตกลงมา ? ครับ หากตกตะกอน สามารถใช้ถังตกตะกอนได้เลยโดยไม่ต้อง มีสารเคมีช่วยในการตกตะกอนครับ
Envigear รับออกแบบ จำหน่าย ติดตั้ง ถังตกตะกอน และระบบการตกตะกอน ซึ่งสามารถใช้ได้ ทั้งในอุตสาหกรรม ประปา และ ระบบบำบัดน้ำเสีย โดยสามารถลดการใช้พื้นที่ลงจาก design เดิมเกือบ 30% สามารถประหยัดค่าการลงทุนและ operation cost ด้วยนะครับ
หากต้องการทราบว่า ถังตกตะกอน ราคา เท่าไหร่ เบื้องต้น คลิ๊ก link นี้ได้เลยครับ
ถัง ตกตะกอน e- lamella
เป็น ถังตกตะกอนที่เป็นทรงสี่เหลี่ยม พร้อมถัง Flocculation และ เพิ่ม e-Media 60 องศา ซึ่งเราออกแบบ มาเพื่อให้สามารถตกตะกอนให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและ ประหยัดปริมาตร ( ขนาดถัง ) ที่สุดครับ
ถัง ตกตะกอน e-sediment
เป็น ถังตกตะกอนที่เป็นทรงกระบอก มีโคน หรือ กรวยแหลม ด้านล่างของถังเพื่อปล่อยให้ตะกอนตกและปล่อยออกไป รวมถึงมี Weir เพื่อให้น้ำใสที่แยกชั้นได้ล้นออกอีกทางหนึ่งครับ โดยทาง e-Sediment ออกแบบมาให้มีความลาดเอียงมากกว่า 45 . องศา ครับ
จุดประสงค์ของถังตกตะกอน คือ ให้ช่วยแยกน้ำใส ออกจาก ฝุ่น แร่ธาตุ ตะกอน หรือ สารแขวนลอยชนิดอื่นที่ปนอยู่ในน้ำ ซึ่งอาจตกตะกอนเอง จากน้ำหนักของตะกอน ( ซึ่งอาจใช้เวลานานก็ได้ครับ เช่น หากเราตั้งน้ำละลายผงโกโก้ ตั้งทิ้งไว้นานพอควร ถึงจะแยกชั้นหรือ ตกตะกอน ) หรือ อาจใช้สารเคมี เพื่อช่วยในการตกตะกอนให้เร็วขึ้นก็ได้ เช่นสารส้ม PAC หรือ Coagulant สารเคมีอื่น เพื่อเร่งเวลาในการตกตะกอน และได้น้ำใส ออกมาในที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการก่อตัวของ ตะกอนติดผนัง สามารถออกแบบ ให้ทำงานเป็น Batch หรือ Continue ก็ได้ครับ
วัสดุที่ใช้ได้ : ไฟเบอร์กลาส ( FRP ) , เหล็ก CS ( Epoxy coated ) คอนกรีตเสริมเหล็ก ( RCC ) และ Poly Propylene ( PP )
การตกตะกอน : น้ำประปา , น้ำ Soft ,น้ำผิวดิน, น้ำตามแม่น้ำ, ลำคลอง, หนอง, บึง, อ่างเก็บน้ำ, บ่อ, หรือ น้ำเสีย
( อาจใช้ร่วมกับสารเคมีเร่งตกตะกอน )
อุปกรณ์ที่อาจต้องใช้ร่วม : Static mixer , ใบกวน , ถังผสมสารเคมี, ปั๊มเคมี , ถังกวนช้า , ถังกรอง เป็นต้น
ถังตกตะกอนแบบ e-lamella
คือการตกตะกอนเพื่อลดพื้นที่ของการตกตะกอนเหมาะสำหรับงานประปา และ น้ำเสีย
ตามทฤษฎีนั้น
การทำน้ำให้ใส หรือ Clarification นั้นเป็นกระบวนการในการปรับปรุงคุณภาพน้ำ โดยทั่วไปจะใช้ในการแยกของแข็งแขวนลอยหรือ Suspended solid ( SS ) จากน้ำ เช่น น้ำดิบเป็นต้นครับ
ในระบบการปรับปรุงคุณภาพน้ำอุตสาหกรรมในปัจจุบัน การทำน้ำใสนั้นจะมักจะใช้วิธี การตกตะกอน Sedimentation ในการออกแบบครับ โดยการตกตะกอนนั้นจะใช้วิธีการแยกตะกอนโดยวิธีกายภาพ หรือใช้แรงโน้มถ่วงของโลกทำให้ตะกอนที่มีน้ำหนัก ตกลงมาครับ